1. ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับมะม่วงหาวมะนาวโห่
1.1 ลักษณะทั่วไป
มะม่วงหาวมะนาวโห่ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Carissa Carandasเป็นพืชที่สามารถเก็บเกี่ยวผลได้ตลอดทั้งปี โดยมีลำต้นสูงประมาณ 2 – 3 เมตร แต่สามารถสูงได้มากที่สุดถึง 5 เมตร ลำต้นมียางขาว เปลือกสีเทา เป็นพืชที่มีกิ่งอยู่เป็นจำนวนมาก และมีกิ่งแข็ง เป็นพืชมีหนาม เป็นพืชใบเดี่ยว พืชชนิดนี้เป็นผลไม้ที่มีเนื้อสด เนื้อนุ่มรับประทานได้ เป็นผลไม้ที่มีเปลือกแข็ง ลักษณะเป็นรูปไข่ ผลอ่อนจะมีลักษณะเป็นสีชมพู และค่อย ๆ เข้มขึ้นเป็นสีแดง จนกลายเป็นสีดำเมื่อสุกเต็มที่ มีรสชาติเปรี้ยว
มะม่วงหาว มะนาวโห่ จัดว่าเป็นเบอร์รีชนิดหนึ่ง ซึ่งมีความเชื่อว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากแถบเทือกเขาหิมาลัย แต่ทางด้านนักพฤกษศาสตร์กลับบอกว่าว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศเนปาลไปจนถึงอัฟกานิสถาน และพบได้อีกหลายพื้นที่ในประเทศอินเดีย โดยธรรมชาติแล้ว จะเจริญเติบโตในพื้นที่ที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 300 – 1800 เมตร
1.2 วิธีการปลูกและดูแลรักษา
มะม่วงหาวมะนาวโห่ เป็นพืชที่สามารถทนต่อสภาพอากาศได้ดี จึงพบว่าเจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนและเขตอบอุ่น อีกทั้งยังสามารถเติบโตได้ดีในเขตดินทราย และในดินเกือบทุกชนิด ตั้งแต่ดินเค็มไปจนถึงดินเปรี้ยว ซึ่งมะมะม่วงหาวมะนาวโห่นั้นจะให้ผลผลิตที่ดีในสภาพดินที่มีความสมบูรณ์ และต้องมีการระบายน้ำที่ดีด้วย เพราะเป็นพืชที่ต้องการน้ำในปริมาณที่น้อยมากนั่นเอง
1.3 การขยายพันธุ์
โดยปกติแล้ว นิยมขยายพันธุ์พืชมะม่วงหาวมะนาวโห่ด้วยเมล็ด ซึ่งเมล็ดของพืชชนิดนี้มีอายุการเก็บรักษาที่สั้น ดังนั้นหลังจากแยกเมล็ดออกจากผลแล้วจึงควรเพาะพันธุ์เมล็ดทันที ซึ่งการเพาะปลูกนิยมทำในโรงเรือนช่วงเดือนสิงหาคม และทำการย้ายปลูกเมื่อต้นกล้าอายุได้ 1 ปี
1.4 การเก็บเกี่ยวผลผลิต
ผลของมะม่วงหาวมะนาวโห่จะเริ่มแก่ตัวเมื่อมีอายุได้ 100 – 110 วัน หลังจากติดผล ซึ่งจะมีพัฒนาการของสีตามธรรมชาติ และผลจะเริ่มสุกหลังจากผลเริ่มแก่ รวมเวลาแล้วประมาณ 120 วันหลังติดผล สังเกตได้ว่าผลจะเริ่มนุ่ม และเปลี่ยนไปสีม่วงเข้ม ซึ่งควรเก็บผลไว้ในที่ร่ม สามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องไว้ได้นานถึง 1 สัปดาห์ ส่วนระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวนั้น จะมีส่วนสำคัญต่อการรักษาปริมาณของสารสำคัญและสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่าการเก็บเกี่ยวผลสุกจะให้สารต้านอนุมูลอิสระได้สูงที่สุด
1.5 สรรพคุณทางยา
มะม่วงหาวมะนาวโห่ เป็นพืชที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างเช่น วิตามินซี ไบโอฟลาวานอยด์ สารแอนไทไซยานิน นอกจากนี้ ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งหากนำผลดิบมาใช้ก็จะทำให้การทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระดีขึ้นกว่าเดิม
ต้านโรคมะเร็ง เนื่องจากมะม่วงหาวมะนาวโห่นั้นเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทั้งยังสามารถต่อต้านเอนไซม์ในสภาพปลอดเชื้อ และช่วยสร้างสารไกลเคชั่นได้ ซึ่งพบว่าสารชนิดนี้มีความเป็นพิษต่อมะเร็งทุกชนิด
ต้านอาการอักเสบ อาการติดเชื้อและอาการอักเสบล้วนมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการแพร่ขยายตัวของโรค เช่น ข้อต่ออักเสบ แผลพุพอง โรคหลอดเลือดแดง และโรคหืด ซึ่งในปัจจุบันได้มียาอยู่หลายชนิดที่ช่วยต่อต้านอาการเหล่านี้อยู่ แต่ก็ก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้หลายอย่างเช่นกัน
ต้านอาการชัก และโรคลมชัก จัดว่าเป็นโรคเก่าแก่ที่สุดโรคหนึ่ง โดยพบมากในเด็กและยังเป็นโรคเรื้อรัง ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการหมดสติ ชักกระตุก มีความผิดปกติทางการรับความรู้สึก ทว่าพืชสมุนไพรอย่างมะม่วงหาวมะนาวโห่ นั้นกลับเปี่ยมไปด้วยสรรพคุณที่สามารถใช้เป็นยาต้านอาการชักได้ โดยสารสกัดจากรากของมะม่วงหาวมะนาวโห่จะสามารถช่วยต้านอาการชักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ต้านโรคเบาหวาน โรคเบาหวานนั้นเกิดจากความผิดปกติต่อมไร้ท่อ ซึ่งทำให้เกิดความผิดปกติ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ ซึ่งโรคนี้ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้หลายอย่าง ซึ่งมะม่วงหาวมะนาวโห่ ก็จัดว่าเป็นตำรายาโบราณที่ใช้ในการรักษาเบาหวานซึ่งสารสกัดจากมะม่วงหาวมะนาวโห่ ที่มีความเข้มข้น 400 มก./กก. สามารถลดน้ำตาลในเลือดลงได้ถึง 48 – 64.5% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับยาต้านเบาหวานในปัจจุบัน
บำรุงหัวใจ จากการศึกษาวิจัยทำให้ทราบว่า สารในกลุ่มของ atnorphous water – soluble polyglycoside ที่ได้จากมะม่วงหาวมะนาวโห่นั้นมีฤทธิ์ในการบำรุงหัวใจ และยังช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปกป้องความเป็นพิษต่อตับ ตับเป็นอวัยวะสำคัญที่จะช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ซึ่งถ้าตับทำงานผิดปกติย่อมทำให้เกิดอาการผิดปกติตามมาได้อย่างมากมาย ซึ่งได้แก่อาการทางสมองและเลือดออกง่าย แต่มะม่วงหาวมะนาวโห่ จัดว่าเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่สามารถปกป้องความเป็นพิษที่เกิดขึ้นกับตับ ซึ่งสารสกัดจากรากของพืชชนิดนี้ จะช่วยป้องกันพิษต่อตับ ที่เกิดจากการใช้ยาพาราเซตามอลได้อย่างมีนัยสำคัญ